Cristiano Ronaldo คริสเตียโน โรนัลโด ประวัติสุดยอดนักฟุตบอลดาว

Cristiano Ronaldo คริสเตียโน โรนัลโด เป็นหนึ่งในนัตฟุตบอลที่มีชื่อเสียง และประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอล ด้วยทักษะความสามารถที่ไม่เหมือนใคร ทำให้เป็นที่น่าประทับใจของแฟนๆ บอลทั่วโลก ถึงแม้ตอนนี้จะอายุมากแล้ว แต่โรนัลโด้ยังคงเป็นตัวท็อปของฟุตบอลโลก ได้ทำลายสถิติและท้าทายความคาดหวังของแฟนๆ ทุกคน ซึ่งในบทความนี้เราจะพามาเจาะลึกการเดินทางของนักกีฬาที่โดดเด่น โดยเน้นย้ำถึงความสำเร็จ และความพยายามที่จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกๆ คน
ประวัติส่วนตัว Cristiano Ronaldo
ชื่อ Cristiano Ronaldo (คริสเตียโน โรนัลโด)
วันเกิด 5 กุมภาพันธ์ 1985 (อายุ 38 ปี)
สถานที่เกิด มาเดียรา ประเทศ โปรตุเกส
ความสูง 1.87 ม. (6 ฟุต 2 นิ้ว)
ตำแหน่ง กองหน้า
ประวัติ คริสเตียโน โรนัลโด
คริสเตียโน โรนัลโด เกิดเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2528 ที่เมืองมาเดียรา ประเทศโปรตุเกส ปัจจุบันเล่นเป็นกองหน้าให้กับสโมสรอัล นาสเซอร์ ของประเทศซาอุดีอาระเบีย และทีมชาติโปรตุเกส นับเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดในยุคนี้ เป็นเจ้าของรางวัล Ballon d’Or รวม 5 ครั้ง ถนัดเล่นเล่นปีกซ้าย แต่สามารถเล่นเป็นกองหน้าได้เช่นกัน ปัจจุบันทำผลงานให้ทีมชาติโปรตุเกส 827 ประตูจาก 1,153 นัดให้กับสโมสรและทีมชาติ ทำให้เขาเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล
ชีวิตในวัยเด็กของ Cristiano Ronaldo
ด้วยวัยเพียง 7 ปี โรนัลโดก็เริ่มแสดงให้เห็นถึงความสามารถเกินตัว จนไปสะดุดสายตาของสปอร์ติงลิสบอน ทำให้ได้รับโอกาสในการพิสูจน์ตัวเอง จนกระทั่งได้เข้าสู่สถาบันเยาวชน หลังจากอายุ 15 ปี ก็มีปัญหาภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ซึ่งทำให้เขาเกือบต้องเลิกเล่นฟุตบอลไป ก่อนที่จะได้เข้ารับการผ่าตัดและกลับมาเล่นในระดับอาวุโสด้วยวัย 16 ปี กลายเป็นผู้เล่นคนแรกที่ได้เล่นในรุ่น U16, U17 ,U18, B Team และทีมชุดใหญ่ที่ใช้เวลาเพียง 1 ฤดูกาลเท่านั้น
อาชีพในวงการฟุตบอลของ คริสเตียโน โรนัลโด
โรนัลโดเปิดตัวครั้งแรกกับสโมสรสปอร์ติงลิสบอน ในศึก Primeira Liga เผชิญหน้ากับ โมเรเนส เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ.2545 สามารถทำคะแนนชนะขาดลอยให้กับทีมไปได้ 3 ประตูต่อ 0 จากการปรากฏตัวทั้ง 25 ครั้ง ทำคะแนนรวมทั้งหมด 5 ประตูในฤดูกาลที่ พ.ศ.2545 และ 2546 ในเดือนสิงหาคมเขาได้ร่วมลงแข่งนัดอุ่นเครื่องระหว่าง แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และ สปอร์ติงลิสบอน ซึ่งได้มีส่วนร่วมในการเอาชนะ แมนเชสเตอร์ 3-1 ทำให้เป็นที่ชื่นชอบในบรรดาเพื่อนนักเตะ รวมถึงผู้จัดการทีมอย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
ไม่นานเขาก็ได้เซ็นสัญญากับทางสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด หนึ่งในสโมสรฟุตบอลที่มีชื่อเสียงสุดของโลก พร้อมค่าตัวกว่า 12.24 ล้านปอนด์ และได้เปิดตัวลงสนามครั้งแรกในวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ.2546 ในการแข่งขัน Premier League กับ โบลตัน โดยลงมาแทน Nicky Butt ก่อนที่จะได้รับเสียงตบมือจากบรรดาแฟนๆ ในสนามหลังจบเกมพาทีมคว้าชัย 4-0 ต่อมาในวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2546 โรนัลโดได้ทำประตูของตัวเองครั้งแรกให้กับทีมด้วยลูก Free Kick เอาชนะ พอร์ตสมัท ด้วยคะแนน 3-0
การย้ายมาอยู่ Real Madrid
ในช่วงปี พ.ศ.2552-2553 โรนัลโดได้ย้ายมาอยู่กับสโมสรสเปนอย่าง เรอัลมาดริด ด้วยค่าตัวกว่า 80 ล้านปอนด์ พร้อมเสื้อหมายเลข 9 โดยเปิดตัวลงสนามในการแข่ง La Liga เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2552 กับ โบลาคอรูนา เอาชนะไปด้วยคะแนน 3-2 ก่อนที่จะรักษาฟอร์มทำคะแนนยิงได้สี่นัดติดต่อกัน ในตลอดช่วง 9 ฤดูกาลที่ได้อยู่กับเรอัลมาดริด เขากลายเป็นผู้เล่นที่ทำประตูสูงสุดของสโมสร ด้วยการทำผลงานรวม 451 ประตู จากการลงแข่ง 438 ครั้ง และได้คว้าแชมป์ UEFA Champions League 4 สมัย, La Liga 2 สมัย รวมถึง Copa del Rey อีก 2 สมัย นอกจากนี้ยังเป็นเจ้าของรางวัล Ballon d’Or award รวมถึง 5 ครั้ง
ผลงานในระดับทีมชาติของ Cristiano Ronaldo
ในปี พ.ศ.2546 คริสเตียโน โรนัลโด ได้เปิดตัวในทีมชาติโปรตุเกส และมีผลงานที่น่าประทับใจ โดยมีผลงานรวมกว่า 100 ประตูในการแข่งขันที่หลายรายการ รวมถึง FIFA World Cup, UEFA European Championship, UEFA Nations League, และการแข่งขันใน European Championship 2004 คริสเตียโนเป็นส่วนสำคัญในการช่วยทีมชาติโปรตุเกสเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศใน European Championship 2004 ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ทีมชาติโปรตุเกสได้เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของศึกฟุตบอลระดับยุโรป อย่างไรก็ตาม ในรอบรองชนะเลิศนั้น ทีมชาติโปรตุเกสพ่ายให้กับ Greece ในการแข่งขัน World Cup 2006
ต่อมาในปี พ.ศ.2559 เขาได้กลายเป็นผู้เล่นที่มีบทบาทสำคัญในชัยชนะของโปรตุเกสอีกครั้ง เมื่อทำผลงาน 3 ประตูในการแข่ง UEFA European Championship และยังมีส่วนในการพาโปรตุเกสคว้าชัยในการแข่ง UEFA Nations League 2019 ด้วยการทำแฮตทริกในรอบรองชนะเลิศกับสวิตเซอร์แลนด์ รวมแล้วมีผลงานให้กับทีมชาติโปรตุเกส 118 ประตู จากการลงเล่น 196 นัด
ค่าตัวที่แพงสุดในประวัติศาสตร์ของ Cristiano Ronaldo
วันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2565 โรนัลโดได้ทำสัญญากับสโมสรอัล นาสเซอร์ โดยจะมีผลอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2566 และสัญญาจะสิ้นสุดในปี พ.ศ. 2568 ด้วยค่าตัว 200 ล้านยูโร ถือเป็นมูลค่าสูงสุดในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลในตอนนี้ ก่อนจะได้เปิดตัวครั้งแรกในฐานะกัปตันทีมเมื่อวันที่ 22 มกราคม ลงเล่น 90 นาทีเต็ม เอาชนะ อัล อิตติฟาค 1-0 และเสมอกับ อัล ฟาร์ท 2-2 ในช่วงนาทีสุดท้ายของการแข่งขัน
ชีวิตส่วนตัวของ คริสเตียโน โรนัลโด
โรนัลโดเติบโตในครอบครัวใหญ่ มีพี่น้องทั้งหมด 3 คน เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะนักเตะใจบุญ ที่มีส่วนร่วมในงานการกุศลต่างๆ มากมายตลอดการทำงานของเขา โดยการบริจาคเงินให้องค์กรต่างๆ มากกว่าหลายล้านดอลลาร์ รวมถึง UNICEF และ Save the Children ไม่เพียงแต่จะเอาดีในด้านอาชีพนักเตะเท่านั้น เขายังมีความสนใจในวงการแฟชั่น และได้เปิดตัวแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเอง นอกจากนี้ยังเป็นนักเล่นโป๊กเกอร์ตัวยงอีกด้วย ปัจจุบันนี้โรนัลโดมีทรัพย์สินมูลค่ารวมประมาณ 500 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 17,410 ล้านบาท ทำให้เป็นหนึ่งในนักกีฬาที่ร่ำรวยที่สุดในโลก
เกียรติประวัติ Cristiano Ronaldo
สโมสร แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
พรีเมียร์ลีก : 2006–2007, 2007–2008, 2008–2009
เอฟเอคัพ : 2003–2004
ลีกคัพ : 2005–2006, 2008–2009
เอฟเอคอมมูนิตีชีลด์ : 2007
ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก : 2007–2008
ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก : 2008
สโมสร เรอัลมาดริด
ลาลิกา : 2011–2012, 2016–2017
โกปาเดลเรย์ : 2010–2011, 2013–2014
ซูเปร์โกปาเดเอสปัญญา : 2012, 2017
ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก : 2013–2014, 2015–2016, 2016–2017, 2017–2018
ยูฟ่าซูเปอร์คัพ : 2014, 2017
ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก : 2014, 2016, 2017
สโมสร ยูเวนตุส
เซเรียอา : 2018–2019, 2019–2020
ซูแปร์โกปปาอีตาเลียนา : 2018, 2020
โกปปาอีตาเลีย : 2020–2021
ทีมชาติ โปรตุเกส
ฟุตบอลโลก: อันดับ 4 : 2006
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป: ชนะเลิศ : 2016
ยูฟ่าเนชันส์ลีก: ชนะเลิศ : 2018–2019
โปรตุเกสรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี
ตูลงทัวร์นาเมนต์: ชนะเลิศ : 2003
รางวัลรายบุคคล คริสเตียโน โรนัลโด
บาลงดอร์ / ฟีฟ่าบาลงดอร์ : 2008, 2013, 2014, 2016, 2017
นักฟุตบอลยอดเยี่ยมของโลกแห่งปี : 2008
ผู้เล่นชายยอดเยี่ยมของฟีฟ่า : 2016, 2017
รองเท้าทองคำยุโรป : 2007–2008, 2010–2011, 2013–2014, 2014–2015
ผู้เล่นยอดเยี่ยมของสหพันธ์ฟุตบอลโปรตุเกส : 2016, 2017, 2018, 2019
นักฟุตบอลยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ : 2006–2007, 2007–2008
นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของพรีเมียร์ลีก : 2006–2007, 2007–2008
รางวัลดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก : 2007–2008
นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของลาลิกา : 2013–2014
รางวัลดาวซัลโวลาลิกา (ปิชิชี่ โทรฟี่) : 2010–2011, 2013–2014, 2014–2015
นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของเซเรียอา : 2019, 2020
รางวัลดาวซัลโวเซเรียอา : 2020–2021