Lionel Messi ลิโอเนล อันเดรส เมสซี่ ประวัติกองหน้า นำทัพ

Lionel Messi (ลิโอเนล อันเดรส เมสซี่) นักฟุตบอลระดับตำนานที่ยังมีชีวิต จากวัยเด็กที่ทุกข์ทรมานจากโรคร้ายที่หาได้ยาก จนกลายมาเป็นสุดยอดนักเตะระดับตำนานที่มีพรสวรรค์เป็นอย่างมาก สามารถโชว์ฟอร์มการเล่นได้อย่างสุดโหดและมีเสน่ห์ประจำตัวที่จัดว่าหาใครเหมือนไม่ได้ จึงได้ฉายาว่า “มนุษย์ต่างดาว” ซึ่งตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน Messi ก็ยังทำผลงานได้ดีมาตลอด สำหรับท่านใดที่กำลังสนใจหรือชื่นชอบในตัว Lionel Messi ห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะบทความนี้จะมานำเสนอข้อมูลตั้งแต่เขาเริ่มเข้าวงการฟุตบอลจนถึงปัจจุบัน แน่นอนว่าที่มาได้ถึงทุกวันนี้จนเรียกได้ว่าเป็นตำนานไม่ใช่ว่าโชคช่วยอย่างแน่นอน

ประวัติส่วนตัว

ชื่อ : Lionel Messi (ลิโอเนล อันเดรส เมสซี่)

วันเกิด : 24 มิถุนายน 2530 (อายุ 35 ปี)

สถานที่เกิด : โรซาริโอ ซานตาเฟ่อาร์เจนตินา

ความสูง : 1.70 ม. (5 ฟุต 7 นิ้ว)

ตำแหน่ง : กองหน้า , กองกลางตัวรุก

ประวัติ Lionel Messi โดยย่อย

เมสซี เกิดเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2530 เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวอาร์เจนตินาที่เล่นในตำแหน่งกองหน้าให้กับ สโมสรปารีสแซงต์แชร์กแมงในลีกเอิงและเป็นกัปตันทีมชาติอาร์เจนตินา เมสซีได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล โดยได้รับรางวัลบัลลงดอร์ 7 รางวัลและรองเท้าทองคำยุโรป 6 รางวัล ในปี 2020 เมสซียังได้รับการเสนอชื่อให้เป็นบัลลงดอร์ดรีมทีม จนกระทั่งออกจากสโมสรในปี 2021 เขาใช้เวลาตลอดอาชีพค้าแข้งให้กับสโมสร บาร์เซโลนา ซึ่งสามารถคว้าแชมป์ 34 รายการถือเป็นประวัติการณ์ รวมถึงคว้า แชมป์ลาลีกา 10 สมัย , แชมป์ โกปาเดลเรย์ 7 สมัย และยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 4 สมัย ส่วนผลงานการค้าแข้งระดับประเทศของเขาสามารถคว้าแชมป์โคปาอเมริกาปี 2021 และฟุตบอลโลกปี 2022 เมสซี่เป็นผู้ทำประตูที่ยอดเยี่ยมสามารถสร้างสรรค์หาจังหวะทำประตูได้ทุกโอกาส มีสถิติทำประตูมากที่สุดในลาลีกา แฮตทริกมากที่สุดในลาลีกาและยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รวมถึงทำแอสซิสต์มากที่สุดในลาลีกาและโกปาอเมริกา เมสซี่ทำประตูให้กับสโมสรและทีมชาติรวมกันมากกว่า 800 ประตู

Newell’s Old Boys จุดเริ่มต้นของ Messi

Newell’s Old Boys คือสโมสรแรกที่เมสซี่ได้เข้าร่วมลงเล่นฟุตบอลครั้งแรกตอน 5 ขวบ ถือเป็นสโมสรชั้นนำของอาร์เจนตินา ซึ่งเขาสามารถทำประตูไปเกือบ 500 ประตู ถึงแม้จะเป็นการแข่งในรุ่นเยาวชน แต่ก็ถือว่าเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมจนทำให้ชื่อเสียงดังกระฉ่อนไปไกล จนเจ้าหน้าที่ทีม บาร์เซโลน่า ต้องจับตามอง ด้วยลีลาการเล่นที่น่าตื่นตาตื่นใจและเป็นเอกลักษณ์เหมือนกับ มาราโดนา จนเป็นเหตุทำให้เมสซี่ต้องย่าถิ่นฐานในอายุเพียงแค่ 13 ปี ถึงแม้ตอนนั้นสุขภาพจะยังไม่มีปัญหาก็ตาม และยังเจอกับเหตุการณ์ที่เลวร้ายอย่างสัญญากระดาษเช็ดปาก เมสซี่นั้นตอนนี้เป็นเด็กที่มีความสูงเพียง 160 เซนติเมตร แต่ว่าเขาก็ได้โชว์ลีลาทักษะการเล่นฟุตบอลให้ทางเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ บาร์เซโลน่า ได้ดูหลังจากผ่านไปเพียง 2 นาที ทางกรรมการก็รู้ได้ว่าจะต้องรีบเซ็นสัญญากับ Messi ทันที

เพราะว่ามองเห็นพรสวรรค์ในตัวเมสซี่ ที่มีเพียงกี่คนที่ในรอบศตวรรษ ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ บาร์เซโลน่า จะต้องทำทุกอย่างเพื่อให้เจ้าหนูคนนี้ได้เซ็นสัญญากับทีม บาร์เซโลน่า ถือแม้ว่าจะมีความเสี่ยงสูงกับเรื่องสุขภาพที่ไม่สู้ดีของตัว Messi แต่ก็ถือว่าเป็นความเสี่ยงที่น่าสนใจ แต่ในตอนนั้นทางสโมสรเองก็กำลังตกอยู่ในวิกฤตย่ำแย่ด้วยการที่เสีย หลุยส์ วิทโก้ ไปให้กับทีม เรอัลมาดริด จนส่งผลให้ทีมนั้นตกต่ำลงอย่างหนัก จนทำให้มุ่งเน้นความสำคัญในการพัฒนาทีมชุดใหญ่มากกว่าจะมานั่งใส่ใจกับเด็กน้อยตัวเล็กที่สุขภาพไม่แข็งแรง แต่ทางเจ้าหน้าที่เองก็ยังมั่นใจในตัว เด็กคนนี้จนได้ตัดสินใจร่างสัญญาใส่บนกระดาษเช็ดปาก ในขณะที่กำลังนั่งรับประทานอาหารกัน เพื่อให้เด็กน้อย Lionel Messi ได้มีกำลังใจและเดินตามความฝันของเขา 6 เดือนต่อมาความฝันนั้นก็เป็นจริงเหมือนรับการเซ็นสัญญาจริงๆ

Messi เริ่มสร้างตำนานกับ บาร์เซโลนา

Lionel Messi ได้กลายเป็นนักฟุตบอลเต็มตัวและทุ่มเท่ทั้งชีวิตให้กับทีม บาร์เซโลนา ซึ่งทางสโมสรเองก็รับผิดชอบชีวิตของเขาทั้งหมดเช่นเดียวกัน โดยได้ให้เงินเป็นจำนวนมากและยังจ่ายค่ารักษาพยาบาลต่างๆ และค่าฮอร์โมนพิเศษ ซึ่งช่วยให้สุขภาพของ Messi ที่เคยมีปัญหานั้นดีขึ้นเลื่อยๆ แต่ว่าตัวเขาเองก็คงต้องปรับตัวอย่างมากเพราะจากบ้านเกิดมาใกล้ตั้งแต่เด็ก แถมยังเป็นคนเงียบๆ พูดน้อย จนทำให้เพื่อนๆ และคนในทีมต่างคิดว่าเขาเป็นใบ้ แต่ Lionel Messi เองก็ขยันฝึกซ้อมอมอย่างหนักเพื่อพัฒนาตนเอง ทำให้ร่างกายของเขาสามารถจดจำเบสิคและเทคนิคการเล่นฟุตบอลต่างๆ จนหลอมรวมเป็นสัญชาตญาณทำให้การเล่นฟุตบอลของเขานั้นไหลลื่นเป็นธรรมชาติตอบสนองอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ แมสซี่ ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมลงเล่นในทีมชุดใหญ่ด้วยเพียงวัย 17 ปีเท่านั้น เพื่อรับตำแหน่งต่อจาก เดโก้ ไม่นานนัก Messi ก็ได้ขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งตัว TOP จนเป็นที่ชื่นชอบในแฟนบอล บาร์ซ่า และได้รับขนานนามจากสื่อสเปนว่า เมสไซอา ที่แปลว่า พระเจ้า ด้วยร่างกายที่หนักเพียง 67 กิโลกรัม ส่วนสูง 170 เซนติเมตร ช่วยให้การเล่นฟุตบอลของเขานั้นมีความพลิ้วไหว และยังสร้างสรรค์หาจังหวะเดินเกมได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้สามารถพริกแพงรูปแบบการเล่นได้หลากหลาย ช่วยให้เจาะทะลวงฝ่ายป้องกันได้อย่างสบายๆ ถึงอย่างก็ตาม ลิโอเนล เมสซี่ ก็ยังไม่หยุดที่จะฝึกซ้อมเพื่อพัฒนาตนเอง

ลิโอเนล เมสซี่ ในระดับ 15 ปี ขึ้นไปฟอร์มการเล่นก็ยังดีเสมอไม่เคยทำให้แฟนๆ ผิดหวังนับตั้งแต่วันแรกที่ได้ลงแข่งอาชีพจนถึงปัจจุบัน ในความยิ่งใหญ่จนทำให้เขาเริ่มเข้าเส้นทางการเป็นซุปเปอร์สตาร์จนเกือบหลงผิดเข้าสู่ด้านมืดติดสิ่งมึนเมา แต่ก็ได้ เปป เตือนสติจนกลับมาคิดได้และมีความเป็นผู้ใหญ่มากยิ่งขึ้นซึ่งก็ได้ละเลิกสิ่งมึนเมาทั้งหมด และได้หันกลับมาเริ่มฝึกซ้อมทุกวันอีกครั้งเพื่อพัฒนาตนเองต่อ จากที่ลงแข่งให้กับทีมในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เมสซี่ ก็ได้พบกับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง โรนัลโด้ ซึ่งถือเป็นคู่ปรับที่ช่วยผลักดันให้ ลิโอเนล เมสซี่ ไม่หยุดที่จะฝึกฝนพัฒนาตนเอง แน่นอนว่าต่างคนก็ต่างเป็นแรงผลักดันให้กันละกันแบบไม่รู้ตัว โดยทุกครั้งที่เขาทำประตูได้ก็จะชี้นิ้วขึ้นฟ้า นั้นเพราะเขาระลึกถึงคุณย่าที่เคยพาไปฝึกซ้อมและลงแข่งในตอนยังเป็นเด็ก ถึงแม้ว่าคุณย่าจะจากไปนานกว่า 20 ปี แล้วก็ตาม แต่เมสซี่เองก็คิดอยู่เสมอว่าย่านั้นมองลงมาเห็นเขาและต้องภูมิใจในตัวของเขาอย่างมาก ด้วยพรสวรรค์ที่ฟ้าประทานมาให้รวมถึงความอดทนมุ่งมานะในการฝึกซ้อมทำให้เขาได้เป็นนักฟุตบอลที่แข็งแกร่ง

Messi อำลาบราซ่า รับคำเชิญ เปแอสเช

หากให้พูดกันตรงๆ ตัวลิโอเนล เมสซี่เองก็คงไม่อยากย้ายจาก บาเซโลน่า แต่เนื่องตัวปัญหาต่างๆ ในเรื่องของการเงินจึงไม่สามารถดึงตัว ลิโอเนล เมสซี่ ไว้ได้ ในช่วงท้ายไม่กี่วันก่อนการเปิดฤดูกาล Messi ก็ได้ตัวสินใจเซ็นสัญญา 2 ปี กับ ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง ในลีกเอิง ด้วยค่าตัวราว 35 ล้านยูโรต่อปี หรือประมาณ 1,300 ล้านบาท โดยเปิดตัวกับสโมสรใหม่ในวันที่ 11 สิงหาคม 2021 และได้สวมเสื้อเบอร์ 30 ลงประเดิมในการแข่งขันแรกลีกเอิงให้กับสโมสรในวันที่ 29 สิงหาคม 2021 พบกลับทีม สตาดเดอแร็งส์ โดยบุกเอาชนะไปได้ 2-0 ซึ่ง Lionel Messi ได้ถูกเปลี่ยนตัวลงมาในครึ่งหลัง

ซึ่งเขาก็ยังได้ทำผลงานที่โดดเด่นอีกมากมายด้วยการทำประตูไปถึง 41 ประตู รวมถึงทำอีก 17 แอสซิสต์ ถือเป็นผลงานที่ดีในระดับสโมสรและทีมชาติในปี 2021ที่สำคัญยังเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยพาทีมชาติอาร์เจนติน่าชนะเลิศถ้วย โกปาอเมริกา 2021 ทำให้ตัวเขาได้รับรางวัล บาลงเดอร์ เป็นครั้งที่ 7 ถึงแม้ว่าจะพบปัญหาที่หนักหนาจากการพ่ายแพ้ เรอัลมาดริด จนส่งผลให้ตกรอบยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ทำให้แฟนบอลโห่กันทั้งสนามแต่หลังจากนั้นผู้จัดการทีมก็ได้ออกมาแถลงว่า เนื่องจาก Messi พึ่งย้ายเข้าทีมมาได้ไม่นานจึงต้องมีการปรับตัวและปรับรูปแบบการเล่นกับทีมใหม่ จึงหวังว่าแฟนบอลจะเข้าใจและให้โอกาส Messi เองก็เริ่มปรับตัวพร้อมพัฒนาตนเองจนกลับเข้าฟอร์มการเล่นและสามารถทำผลงานได้ดีเยี่ยมให้กับทีม

Lionel Messi คว้าแชมป์โลกให้กับ ทีมชาติอาร์เจนตินา

Lionel Messi ผู้ที่นับได้ว่าเป็นที่สุดของนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ ที่สามารถคว้ามาแถบจะทุกรางวัลแต่มีอยู่ถ้วยเดียวที่ตัวเขายังไม่สามารถเอามาครอบครองได้ Lionel Messi เคยได้บอกไว้ว่าตนเองยอมเอาถ้วยทั้งหมดที่มีแลกกับถ้วยใบนี้ใบเดียว ที่ผ่านมานั้นเขาได้มีโอกาสที่จะคว้าถ้วยใบนี้หลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ จนบ้างคนก็คิดว่า Messi อาจจะไม่มีโอกาสได้ครอบครองถ้วยในนี้อีกแล้ว ด้วยอายุ 35 ปีอาจทำให้เป็นโอกาสสุดท้ายที่จะทำมันให้สำเร็จ โดยลิโอเนล เมสซี่ได้ประกาศไว้ว่าฟุตบอลโลกครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายของผม มันจะกลายเป็นการทิ้งทวนและปิดตำนานกับความหวังของทีมกับชายวัย 35 ปี ซึ่งความหวังครั้งสุดท้ายแทบจะจบลงอย่างไวด้วยการที่อเจนติน่าได้พ่ายแพ้ไปตั้งแต่ แมทซ์แรก

แต่ก็ไม่สิ้นหวังหลังจากกลับมาท็อปฟอร์มเก็บชัยชนะไปได้ในเกมที่ 2 ด้วยการยิงหน้ากรอบเขตโทษของ เมสซี่ ทะลุกองหลังลูกพุ่งเข้าตุงตาข่ายไปได้แบบสบายๆ และยังทำแอสซิสต์ได้อีก 1 ประตู ถือเป็นนักเตะวัย 35 ที่ยังสามารถโชว์ฟอร์มการเล่นได้อย่างดุดัน ต่อมาให้นัดที่เจอกับ ออสเตรเลีย Messi ก็ได้โชว์สกิลล็อคทะลุ 3 คนก่อนที่จะยิงเก็บสกอร์ พาทีมเข้าไปสู่รอบสุดท้ายไปเจอกับ เนเธอร์แลนด์ ซึ่งเกมนี้บอกได้เลยว่าตึงมือกันเลยทีเดียว แต่ก็ยังเป็นเทพ เมสซี่ อีกเช่นเคยที่จ่ายบอลทำเกม บุกยิงแบบไม่พัก และก็ยังยิงจุดโทษให้กับทีมจบเกมที่สกอร์ 3-0 ส่งทีมเข้าสู่รอบรองชนะเลิศพบกับ โครเอเชีย ในที่สุดวันที่ทุกคนรอคอยก็มาถึงในรอบชิงชนะเลิศที่ อาร์เจนตินา พบกับ ฝรั่งเศส เสียงเชียร์จากแฟนฟ้าขาวคำรามดังกึกก้องไปทั้งสนาม เพื่อต้องการส่งแรงใจไปให้นักเตะหวังให้คว้าแชมป์บอลโลกมาครองให้ได้ สำหรับทีมที่แพ้ในนัดแรกจนเกือบหมดโอกาสแต่ตอนนี้กำลังจะได้เข้าไปสร้างตำนานบทใหม่ นัดนี้จัดว่าเป็นสิ่งที่ Lionel Messi รอคอยมาอย่างยาวนานต่อไปนี้อีก 90 นาที จะถือเป็นบทสรุปในความพยายามที่ผ่านมา ซึ่งทางอเจนติน่าก็โชว์ฟอร์มการเล่นได้อย่างเหนือชั้น

จนมาถึงในนาทีที่ 23 เป็นจังหวะที่ Messi ได้ยิงจุดโทษ และก็ยิงเข้าไปอย่างสวยงามด้วยเท้าขวาทำให้ขึ้นนำไปก่อน 1-0 แฟนบอลฟ้าขาวเฮลั่นทั้งสนาม เพราะในตอนนี้ทีมที่รักของเขาได้เก็บประตูขึ้นนำไปก่อน แต่ก็ยังวางใจไม่ได้ต่อมาในนาทีที่ 80 เมสซี่ ได้จ่ายบอลทะลุเข้าเขตโทษให้เพื่อนซัดเต็มประตูขึ้นนำเป็น 2-0 เหลือเพียงอีก 10 นาทีเกมก็จะจบลง แต่อย่างที่สุภาษิตได้บอกไว้ว่าเวลาไม่หมดอย่าเพิ่งนับศพทหาร 10 นาทีสุดท้ายแต่อาร์เจนตินาก็เสียงจุดโทษให้กับฝรั่งเศส คีเลียน เอ็มบัปเป้ วัย 23 ปี เป็นผู้รับหน้าที่สังหารยิงเข้าประตูไปทำให้ตีตื้นขึ้นมาเป็น 2-1 ผ่านมาไม่ถึง 3 นาที ทางฝรั่งเศสก็สามารถทำประตูตีเสมอได้จากลูกบอลเล่ พุ่งเข้าตะข่ายไปอย่างสวยงาม เป็นเรื่องที่น่าเสียดายสำหรับแฟนฟ้าขาวซึ่งก็ต้องมาลุ้นกันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ

เริ่มช่วงต่อเวลาพิเศษซึ่งทางอเจนติน่าก็เรียกเสียงเฮได้จากการทำประตูขึ้นนำไปก่อน ด้วยการซ้ำของ เมสซี่ ลูกเข้าประตูไปแบบเน้นๆ แฟนบอลต่างลุ้นกันแบบหัวใจแทบจะหยุดเต้นกับเวลาที่เหลือเพียงแค่ 12 นาที ทำให้ฝันนั้นใกล้จะเป็นจริง แต่ทุกอย่างนั้นก็ไม่ได้สมหวังกันง่ายๆ เมื่อฝรั่งเศสได้จุดโทษอีกครั้ง และผู้สังหารประตูในครั้งนี้ก็คือ เอ็มบัปเป้ คนเดิมผู้ที่ทำแฮตทริซให้ตัวเองภายในเวลาที่เหลืออยู่น้อยนิด ต่อมาแฟนฟ้าขาวแทบใจสะลายเมื่อโอกาสทำประตูไปอยู่ในมือของฝรั่งเศสในจังหวะสุดท้าย แต่โชคยังเข้าข้างเมื่อ มาร์ติเนซ ผู้รักษาประตูยังสามารถเซฟประตูไว้ได้ต่อชีวิตให้ อาร์เจนตินา ไปลุ้นกันต่อในการตัดสินลูกจุดโทษ

และในรอบตัดสินลูกจุดโทษก็ได้เริ่มขึ้นซึ่งทาง อาร์เจนตินา ก็เป็นผู้ที่โชว์ฟอร์มได้ดีกว่าสามารถคว้าแชมป์บอลโลกมาครองได้สำเร็จซึ่งทาง Lionel Messi ก็สามารถทำตามฝันของเขาและจบตำนานได้อย่างสมบูรณ์ และกลายเป็นตำนานนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลที่ยังคงมีชีวิตอยู่

เกียรติประวัติ

สโมสร บาร์เซโลนา

• ลาลีกา : 2004–05 , 2005–06 , 2008–09 , 2009–10 , 2010–11 , 2012–13 , 2014–15 , 2015–16 , 2017–18 , 2018–19
• โคปาเดลเรย์ : 2008–09 , 2011–12 , 2014–15 , 2015–16 , 2016–17 , 2017–18 , 2020–21
• สแปนิช ซูเปอร์ คัพ : 2006 , 2009 , 2010 , 2011 , 2013 , 2016 , 2018
• ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก : 2005–06 , 2008–09 , 2010–11 , 2014–15
• ยูฟ่าซูเปอร์คัพ : 2009 , 2011 , 2015
• ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ : 2009 , 2011 , 2015

ปารีส แซงต์ แชร์กแมง

• ลีกเอิง : 2021–22
• แชมเปี้ยนส์ โทรฟี่ : 2022

ทีมชาติอาร์เจนติน่า U20

• ฟีฟ่าเยาวชนชิงแชมป์โลก : 2548

ทีมชาติอาร์เจนติน่า U23

• โอลิมปิกฤดูร้อน : 2008

ทีมชาติอาร์เจนตินา

• ฟุตบอลโลก : 2022
• อเมริกาส์คัพ : 2021
• CONMEBOL–ยูฟ่าคัพออฟแชมเปียนส์ : 2022

รางวัลรายบุคคล ลิโอเนล อันเดรส เมสซี่

• บัลลงดอร์ / ฟีฟ่า บัลลงดอร์ : 2009 , 2010 , 2011 , 2012 , 2015 , 2019 , 2021
• นักฟุตบอลยอดเยี่ยมของโลกแห่งปี : 2009
• ผู้เล่นฟีฟ่ายอดเยี่ยมชาย : 2019 , 2022
• รองเท้าทองคำยุโรป : 2009–10, 2011–12, 2012–13, 2016–17, 2017–18, 2018–19
• บอลทองคำฟุตบอลโลก FIFA : 2014 , 2022
• รองเท้าบู๊ตเงิน FIFA World Cup : 2022
• ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ โกลเด้น บอล : 2009 , 2011
• FIFA U-20 World Cup Golden Ball : 2005
• รองเท้าทองคำ FIFA U-20 World Cup : 2005
• รางวัลผู้เล่นชายแห่งปีของยูฟ่า : 2008–09 , 2010–11 , 2014–15
• ผู้เล่นยอดเยี่ยมโคปาอเมริกา : 2015 , 2021
• ผู้ทำประตูสูงสุดโคปาอเมริกา : 2021
• ผู้เล่นยอดเยี่ยมลาลีกา : 2008–09 , 2009–10 , 2010–11 , 2011–12 , 2012–13 , 2014–15
• Pichichi Trophy : 2009−10 , 2011–12 , 2012−13 , 2016–17 , 2017−18 , 2018–19 , 2019–20 , 2020–21
• ลอรีอุส เวิลด์ สปอร์ตแมน ออฟ เดอะ เยียร์ : 2020, 2023
• นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของอาร์เจนตินา : 2005, 2007, 2008, 2009, 2010, 2011, 2012, 2013, 2015, 2016, 2017, 2019, 2020, 2021, 2022